- เลือกขนาดของมอเตอร์ให้เหมาะสมกับงาน โดยเฉพาะถ้าค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าบริเวณนั้นมีค่าต่ำ ขนาดของมอเตอร์ต้องเหมาะกับภาระจึงจะช่วยลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่จําเป็นให้น้อยลง
- เลือกประสิทธิภาพของมอเตอร์ให้เหมาะกับสภาพการทำงาน โดยควรคำนึงถึงราคาซื้อ ชั่วโมงการทํางาน ประสิทธิภาพของมอเตอร์และค่าไฟฟ้า
- ปิดมอเตอร์ทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน การเดินเครื่องทิ้งไว้โดยไม่มีภาระงานจะใช้พลังงานประมาณ 10- 20% ของพลังงานที่ใช้ขณะที่มอเตอร์ทํางานที่ภาระเต็มกําลัง
- ตรวจสอบอุณหภูมิของมอเตอร์และระบบจ่ายไฟว่าสูงผิดปกติหรือไม่ เนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นหมายถึงการสูญเสียกําลังของมอเตอร์และทําให้ประสิทธิภาพลดลง
- หากเป็นไปได้ ควรใช้การขับเคลื่อนโดยตรง เนื่องจากการขับเคลื่อนทางอ้อม เช่น ขับเคลื่อนด้วยสายพาน จะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานเป็นจํานวนมาก
- ตรวจสอบความสมดุลย์ของแรงดันไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ถ้าแรงดันไฟฟ้าของมอเตอร์ 3 เฟสไม่สมดุลย์ อาจมีการสูญเสียพลังงานจํานวนมากได้
- เลี่ยงการเริ่มเดินเครื่องและกลับทิศทางการหมุนของมอเตอร์ขนาดใหญ่ ในช่วงเวลาที่มีความต้องการกําลังไฟฟ้าสูงสุด
- ดูแลรักษาระบบทางกลของมอเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจสอบความตึงของสายพาน อัดจาระบีและหยอดน้ํามันหล่อลื่นตามกําหนด ฯ
- ติดตั้งมอเตอร์ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพราะการใช้งานมอเตอร์ในที่ ๆ มีอุณหภูมิสูงจะทําให้กําลังสูญเสียของมอเตอร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากความร้อนของขดลวดมีค่าเพิ่มขึ้น
- ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้มอเตอร์ ถ้าแรงดันไฟฟ้าสูงเกินกว่าพิกัดที่บอกไว้บนป้าย จะทําให้เกิดกําลังสูญเสียในแกนเหล็กมากขึ้นกว่าพิกัด ส่งผลต่อสมรรถนะการทํางานของมอเตอร์ที่เปลี่ยนไป และมีผลต่ออายุการใช้งานมอเตอร์
บริษัท ยูโรเอ็นเทค จำกัด ผู้ผลิตและให้คำปรึกษาด้านระบบควบคุมและระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม [ ดูสินค้าบริษัท ]
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
📞 086-4417193, 02-7596892
🏬 สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ [ click ]
เครื่องเชื่อม TIG เชื่อมทิก เชื่อมโลหะ MMA เชื่อมไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า ที่ปรึกษา มอเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้า